นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG เปิดเผยว่า ปี 2566 ในช่วงครึ่งปีแรกถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความท้าทาย โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการเงิน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อรวม เม็ดเงินในการลงทุนจึงไม่เติบโตเท่าที่ควร อย่างไรก็ดี XPG สามารถสร้างรายได้รวม 217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 347% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ติดลบ 88 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 132 ล้านบาท
“ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นนี้หลัก ๆ มาจาก 2 ปัจจัย คือ การรับรู้รายได้จากบริษัทลูก คือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็กซ์สปริง จำกัด (XSpring AM) ทำยอดขายได้อย่างโดดเด่น โดยมีการจัดตั้งกองทุนส่วนบุคคล มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท ลงทุนในหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิของบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ XSpring AM มีรายได้หลักมาจาก 2 ทาง คือจากการเป็นผู้จัดการกองทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นนายหน้าซื้อขายกองทุนรวมให้กับพันธมิตร 16 ราย ซึ่งลูกค้าของ XSpring AM มีความหลากหลายทั้งลูกค้าระดับ High Net Worth และลูกค้ารายย่อย” นางสาววรางคณา กล่าว
อีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนผลการดำเนินงานมาจากธุรกิจการบริหารเงินลงทุนของ XPG ที่ได้ทำการจัดพอร์ตการลงทุนใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น ซึ่งส่วนนี้ถือว่ามีความสำคัญมากเพราะปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจและเทคโนโลยีส่งผลให้โลกของการลงทุนต้องทำการศึกษาและปรับเปลี่ยนการลงทุนให้ทันท่วงที โดยพอร์ตการลงทุน XPG ครึ่งปีแรกส่งผลบวกต่อรายได้ 138 ล้านบาท
นางสาววรางคณา กล่าวถึงทิศทางในครึ่งปีหลัง XPG มองว่าภาวะตลาดโดยรวมจะเริ่มมีปัจจัยบวกต่อการดำเนินธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของภาคท่องเที่ยวซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยยอดนักท่องเที่ยวสะสมจากต้นปีถึงปัจจุบันมีมากกว่า 12 ล้านคน สอดคล้องกับคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ประเมินว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มอีก 17 ล้านคน ในครึ่งปีหลัง ซึ่งภาคการบริโภคและลงทุนเอกชน รวมไปถึงการท่องเที่ยวจะยังเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยธปท.ประเมินว่าภาพรวมอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยยังเติบโตได้ในระดับ 3.6% ในปี 2566 ถือว่าเป็นสัญญาณบวกของภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง เนื่องจากเป็นตัวเลขที่สูงกว่า GDP ไตรมาส 1/2566 ที่ขยายตัว 2.7%
XPG จึงมีมุมมองว่าการขยายตัวในครึ่งปีหลังจะหนุนด้านอุปสงค์ในประเทศและการท่องเที่ยวเติบโต นอกจากนี้ยังคาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะกลับมาเกินดุลในปีนี้จากการค้าสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ภาคการลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น นักลงทุนบางส่วนอาจจะมองหาการลงทุนใหม่ ๆ เพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่ดีขึ้นและกระจายความเสี่ยง ด้วยการใช้บริการมืออาชีพในการดูแลบริหารจัดการทรัพย์สิน เช่น ผู้จัดการกองทุน และที่ปรึกษาด้านความมั่งคั่ง (Wealth Advisor)
ปัจจุบัน XPG มีบริการด้านการเงินที่หลากหลายเปรียบเสมือน ecosystem ที่มีบริการทางการเงินที่ครบวงจร มุ่งไปสู่การเป็น Gateway to Greater Wealth ให้กับนักลงทุน ทั้งบริการด้านหลักทรัพย์ จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด ธุรกิจจัดการกองทุน โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์ เอ็กซ์สปริง เอ เอ็ม ซี จำกัด และ ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนนั้น ล่าสุดบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด อยู่ระหว่างเตรียมการเปิดตัวกองทุนที่กระจายตัวในสินทรัพย์นอกตลาด (Diversified Private Asset Fund) เป็นการลงทุนทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์การลงทุนได้ดีในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนเนื่องจากเป็นการลงทุนใน Real Asset (สินทรัพย์ที่จับต้องได้ และมีผลตอบแทนสม่ำเสมอ) ไม่สัมพันธ์กับราคาสินทรัพย์ในตลาดจดทะเบียน (Public Asset) โดยกองทุนประเภทนี้สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน และบริษัทนอกตลาด (Private Equity) โดยคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
ที่มา : มติชนออนไลน์
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4123811
เวลา 9.00 - 18.00 น. วันจันทร์ - ศุกร์